วิธีการเลือกซื้อน้ำกลั่นเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม 

อุตสาหกรรมใดบ้าง? ที่มีความจำเป็นในการใช้น้ำกลั่น

วิธีการเลือกซื้อน้ำกลั่นเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม

น้ำกลั่น คือน้ำที่ได้รับการทำให้บริสุทธิ์โดยผ่านกระบวนการกลั่น (Distillation) ซึ่งเป็นการนำน้ำธรรมดามาต้มจนถึงจุดเดือด (ประมาณ 100 องศาเซลเซียส) ทำให้น้ำกลายเป็นไอ จากนั้นก็ทำให้ไอน้ำควบแน่นกลับมาเป็นน้ำอีกครั้งโดยการนำไปผ่านระบบทำความเย็นเพื่อให้กลายเป็นของเหลวอีกครั้ง ซึ่งกระบวนการนี้จะช่วยขจัดสิ่งสกปรก สารเคมี แร่ธาตุและจุลินทรีย์ต่างๆ ออกจากน้ำ ทำให้น้ำที่ได้มีความบริสุทธิ์สูงและปราศจากสิ่งเจือปนที่อาจเป็นอันตราย แล้วจึงถูกรวบรวมและส่งต่อไปจัดเก็บในภาชนะที่สะอาด

โดยคุณสมบัติพิเศษของน้ำกลั่นที่ได้ก็คือ ปราศจากสารเคมี, จุลินทรีย์ แบคทีเรียและสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนมาจึงมีความบริสุทธิ์สูงและไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี จึงเหมาะสำหรับการนำไปใช้กับงานหรือการผลิตที่ต้องการความบริสุทธิ์สูง เช่น ในอุตสาหกรรมเภสัชกรรมและยา, อุตสาหกรรมอาหารเครื่องดื่ม, และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือแม้กระทั่งการนำไปใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน อย่างเตารีดไอน้ำ, หม้อไอน้ำ หรือระบบเครื่องทำความชื้น เป็นต้น

น้ำกลั่นที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรม ในท้องตลาดทั่วไปจะเป็น Demineral Water หรือเรียกอีกชื่อว่า Deionize water เป็นน้ำกลั่นที่เกิดจากการกรอง 3 ขั้นตอน คือ

  1. กรองกลิ่นและคลอไรด์ด้วย Carbon โดยใช้ถ่านคาร์บอนเป็นตัวจับกลิ่นและสารคลอไรด์ในน้ำ ก่อนผ่านไปสู่ขั้นตอนที่ 2
  2. กรองด้วยระบบ RO เพื่อกรองอนุภาคของสารแขงนลอยในน้ำ ด้วยเส้นใย membrane filter ที่มีความละเอียดสูง น้ำที่ผ่านระบบ RO แล้วจะมีค่าการนำไฟฟ้า หรือค่า EC ไม่เกิน 20
  3. กรองด้วยเรซิน เพื่อขจัดอิออนในน้ำ เพื่อในน้ำมีความบริสุทธิ์มากที่สุด หลังจากผ่านการกรองในขั้นตอนนี้แล้ว ค่า EC ที่ได้จะไม่เกิน 1 microseimen/cm. (ซึ่งใกล้เคียงกับน้ำกลั่นที่ผลิตโดยกรรมวิธีการกลั่นให้น้ำกลายเป็นไอ (Distilled Water)

เหตุผลหลักที่ทำให้น้ำกลั่น Deionized Water ได้รับความนิยมในการใช้สำหรับอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ มากกว่า น้ำกลั่น (Distilled Water) ก็เนื่องจาก น้ำกลั่นที่ได้จากการกลั่นเป็นไอน้ำ (Distilled Water) จะมีต้นทุนในการผลิตที่สูงและผลิตได้ในปริมาณน้อยและใช้เวลาในการผลิตค่อนข้างนาน ในขณะที่ น้ำกลั่น Deionized Water ที่ผลิตด้วยวิธีการกรอง 3 ขั้นตอน สามารถผลิตได้ครั้งละปริมาณมาก ในเวลาที่เท่ากัน อีกทั้งค่าความบริสุทธิ์ของน้ำ ใกล้เคียงกัน นี้จึงเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้น้ำกลั่น Deionized Water ได้รับความนิยนในท้องตลอดมากกว่าน้ำกลั่น Distilled Water นั่นเอง

น้ำกลั่น (Distilled Water) สามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ตามวิธีการกลั่นและการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้:

  • น้ำกลั่นสำหรับการใช้งานทั่วไป (General Purpose Distilled Water) : นิยมนำไปใช้ในงานที่ไม่ต้องการความบริสุทธิ์สูงมาก เช่น การใช้ในเตารีดไอน้ำ, การทำความสะอาด หรือการเจือจางสารเคมี เป็นต้น

  • น้ำกลั่นบริสุทธิ์สูง (High Purity Distilled Water) : คือน้ำที่ผ่านการกลั่นหลายครั้งหรือมีการใช้เทคโนโลยีเพิ่มความบริสุทธิ์ เพื่อนำไปใช้ในงานที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น การใช้ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์, การผลิตเครื่องสำอางหรือการใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

  • น้ำกลั่นทางการแพทย์ (Medical Grade Distilled Water) : โดยจะต้องผ่านมาตรฐานความบริสุทธิ์และมีความปลอดภัยสูงก่อนการนำไปใช้ เช่น การผลิตยาฉีด, น้ำยาล้างแผล หรือน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์และห้องผ่าตัด

  • น้ำกลั่นสำหรับอุตสาหกรรม (Industrial Distilled Water) : เป็นประเภทที่นำไปใช้ในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการน้ำบริสุทธิ์ เช่น ในโรงไฟฟ้า, ในการผลิตเครื่องจักรหรือการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

  • น้ำกลั่นสำหรับการใช้ในแบตเตอรี่ (Battery Grade Distilled Water) : ซึ่งนำใช้ในการเติมแบตเตอรี่รถยนต์ เพื่อป้องกันการตกตะกอนและการเกิดคราบในแบตเตอรี่ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้อีก 2 ประเภทคือแบบสีชมพู จะทำหน้าที่ช่วยลดความร้อนให้กับแบตเตอรี่ ทำให้แบตเตอรี่มีประสิทธิภาพในการเก็บกำลังไฟไว้ได้นานมากขึ้น กับอีกประเภทก็คือไม่มีสีจะเน้นใช้งานในภาคอุตสาหกรรม แต่ก็สามารถใช้งานในรถยนต์ได้ดีเช่นกัน

หลักในการพิจารณาเลือกซื้อน้ำกลั่นเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม มีอะไรบ้าง?

  • ระดับความบริสุทธิ์ : ระบุระดับความบริสุทธิ์ที่จำเป็นสำหรับการใช้งานของคุณ อุตสาหกรรมต่างๆ มีข้อกำหนดด้านความบริสุทธิ์ที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมยาและอิเล็กทรอนิกส์มักต้องการในการใช้งานน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูงและปราศจากเชื้อ จึงควรจะต้องมีการตรวจสอบระดับความบริสุทธิ์โดยพิจารณาจากปริมาณของแข็งละลายทั้งหมด (Total Dissolved Solids, TDS) และอีกวิธีหนึ่งคือเช็คค่าการนำไฟฟ้า (Electical Condustivity) วิธีนี้จะมีความละเอียดและแม่นยำกว่าการเช็คด้วยค่า TDS ซึ่งน้ำกลั่นที่มีความบริสุทธิ์สูงจะมีค่า TDS และ EC ต่ำ มีการปนเปื้อนสารเคมีน้อย สิ่งสำคัญอย่าลืมขอตัวอย่างเพื่อทดสอบคุณภาพก่อนตัดสินใจซื้อจำนวนมากด้วยนั่นเอง

  • มาตรฐานและการรับรองคุณภาพ : ตรวจสอบว่ามีมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือการรับรองเฉพาะทางที่ควรมี เช่น มาตรฐาน ISO, ASTM, USP ที่เป็นน้ำเกรดเภสัชกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GMP และมีการทดสอบคุณภาพจากห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง เป็นต้น

  • เลือกประเภทของน้ำกลั่นให้เหมาะกับอุตสาหกรรมของคุณ : อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วน้ำกลั่นมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีความเหมาะสำหรับการใช้งานของอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันไป ฉะนั้น การพิจารณาเลือกซื้อทุกครั้งก็ควรเลือกประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งานในอุตสาหกรรมของคุณ

  • บรรจุภัณฑ์และการจัดส่ง : น้ำกลั่นที่ใช้ในอุตสาหกรรมควรบรรจุในภาชนะที่สะอาด ปลอดภัยและเหมาะสมกับการใช้งาน ง่ายต่อการเก็บรักษา เช่น ภาชนะสแตนเลส, ขวดพลาสติด PP PE HDPE หรือคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่(IBC Tank) ซึ่งจะต้องทำจากวัสดุที่ไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำกลั่นและการจัดส่งที่มีการควบคุมเพื่อป้องกันการปนเปื้อน

  • เปรียบเทียบราคาจากผู้จำหน่ายหลายราย : เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม ซึ่งควรคำนึงถึงต้นทุนต่อหน่วยปริมาตรที่คุณต้องการใช้เป็นประจำ สิ่งนี้จะส่งผลต่อตัวเลือกการบรรจุและการจัดส่งที่เหมาะสม รวมถึงพิจารณาเรื่องความสะดวกในการจัดซื้อจัดส่งและบริการหลังการขายที่ดี เช่น การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้งาน, การสนับสนุนด้านเทคนิค และการเปลี่ยนคืนสินค้าหากมีปัญหา เป็นต้น

  • เลือกบริษัทผู้จำหน่ายและผู้ผลิตน้ำกลั่นที่น่าเชื่อถือ : เช่น บริษัทที่มีชื่อเสียงและมีประสบการณ์ในการจำหน่ายและผลิตสารเคมีต่างๆ สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนานและจะต้องมีใบรับรองที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น ISO 9001 หรือ ISO 13485 อาจเป็นเครื่องบ่งชี้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ นั่นเอง

ประเภทของอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นในการใช้น้ำกลั่นมีอะไรบ้าง?

  • อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม : ในการผลิตเครื่องดื่มต่างๆ เช่น น้ำดื่มบรรจุขวด, น้ำอัดลมและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะต้องใช้น้ำที่มีความสะอาด บริสุทธิ์และปราศจากสิ่งปนเปื้อนใดๆ ที่สำคัญคือจะต้องไม่ทำให้รสชาติของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนแปลง เพื่อนำมาผลิตเครื่องดื่มสำหรับจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างปลอดภัย

  • อุตสาหกรรมการผลิตยาและเภสัชกรรม : เนื่องจากน้ำกลั่นปราศจากสิ่งเจือปนและมีความบริสุทธิ์มาก จึงถูกนำมาใช้นการผลิตยา วัคซีนและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ต่างๆ รวมถึงผลิตน้ำยาทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ในอุตสาหกรรมการแพทย์และห้องปฏิบัติการ ก็ยังนำมาใช้ในการเตรียมสารละลาย, การทำความสะอาดเครื่องมือแพทย์และการใช้งานในห้องปฏิบัติการวิจัยอีกด้วย

  • อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย : ในการผลิตเครื่องสำอาง, สกินแคร์, โลชั่นหรือแชมพู จะต้องมีส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ก็คือน้ำ ซึ่งต้องมีความสะอาดมาก ไม่มีสารปนเปื้อนใดมาทำปฏิกิริยากับสารเคมีอื่นๆ ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ จึงนิยมใช้น้ำกลั่นที่มีความบริสุทธิ์สูง เพื่อลดความเสี่ยงของการแพ้และการระคายเคืองของผู้บริโภค นั่นเอง

  • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ : ในการทำความสะอาดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และในการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องใช้น้ำที่มีความสะอาดและบริสุทธิ์ โดยจะต้องไม่มีไอออนที่อาจทำให้เกิดการกัดกร่อนหรือการสะสมของสารเคมีได้ และจะต้องไม่มีสารตกค้างและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้วงจรขัดข้องหรือเกิดปัญหาการนำไฟฟ้าได้ นอกจากนั้นในอุตสาหกรรมนี้ ยังสามารถนำน้ำกลั่นมาใช้ประโยชน์ในกระบวนการต่างๆ ได้เช่น การใช้งานในระบบน้ำหล่อเย็นของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ เพื่อป้องกันการเกิดตะกรันและการกัดกร่อนของท่อและส่วนประกอบอื่นๆ, การผลิตชิปและเซมิคอนดักเตอร์ จะต้องใช้น้ำกลั่นที่มีความบริสุทธิ์สูงมาก เพื่อป้องกันการปนเปื้อนที่อาจทำให้ชิปทำงานผิดพลาดหรือมีคุณภาพต่ำ นั่นเอง

  • อุตสาหกรรมเคมี : เช่น การเตรียมสารละลายและสารผสมที่ต้องการความบริสุทธิ์สูง เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยากับสิ่งเจือปนที่อยู่ในน้ำธรรมดา, ใช้ในห้องปฏิบัติการสำหรับการวิเคราะห์ทางเคมี เช่น การไตเตรท (titration) การสกัด (extraction) และการเตรียมตัวอย่างทางเคมี นอกจากนั้นยังใช้น้ำกลั่นในกระบวนการผลิตสารเคมีที่ต้องการความบริสุทธิ์สูง เช่น การผลิตกรดและด่างบริสุทธิ์ สารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและยา รวมถึงใช้ในการทำความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องมือในห้องปฏิบัติการและโรงงานผลิต เป็นต้น

  • อุตสาหกรรมพลังงาน : น้ำกลั่นมีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญเพราะมีความสะอาด บริสุทธิ์และปราศจากแร่ธาตุ ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดคราบสะสมและการกัดกร่อนในระบบต่างๆ ของอุตสาหกรรม เช่น ใช้เป็นน้ำหล่อเย็นในหม้อไอน้ำและเครื่องกำเนิดไอน้ำ, การผลิตไอน้ำที่ใช้ขับเคลื่อนกังหันไอน้ำ ไอน้ำบริสุทธิ์ช่วยป้องกันการสะสมของแร่ธาตุที่อาจเกิดความเสียหายต่อใบกังหัน ในระบบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เช่นเดียวกับในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน และในระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากนั้น น้ำกลั่น ยังใช้ในการเติมแบตเตอรี่กรดตะกั่ว (Lead-acid battery) เพื่อป้องกันการสะสมของแร่ธาตุที่อาจทำให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลดลงและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย

  • อุตสาหกรรมยานยนต์ : เช่น ในระบบระบายความร้อน (Cooling Systems) น้ำกลั่น ถูกนำไปใช้เป็นสารทำความเย็นในหม้อน้ำรถยนต์ เนื่องจากปราศจากแร่ธาตุที่สามารถสร้างคราบหินปูนหรือสนิมในระบบระบายความร้อนได้ ซึ่งช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของส่วนประกอบต่างๆ ได้ หรือการใช้เติมแบตเตอรี่ชนิดตะกั่ว-กรด เพื่อป้องกันการสะสมของสารเจือปนที่อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมประสิทธิภาพ รวมถึงนำมาใช้ในการล้างและทำความสะอาดชิ้นส่วนยานยนต์ ได้อีกด้วย

จากประโยชน์ต่างๆ ของน้ำกลั่นที่มีความจำเป็นต่อหลายอุตสาหกรรมมากมายดังที่เราได้กล่าวไปนั้น เพื่อความมีประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดต่ออุตสาหกรรมของคุณ การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้มีคุณภาพสูงและปราศจากสิ่งเจือปน มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยหลักในการพิจารณาทั้งเรื่องของ การเลือกระดับความบริสุทธิ์เพื่อนำมาใช้ให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมแต่ละประเภท, การพิจารณาเรื่องใบรับรองหรือมาตรฐานต่างๆ ทั้งจากผู้ผลิตและจำหน่าย อย่าง ISO, ASTM, USP หรือ GMP นอกจากนั้น ก็ควรพิจารณาถึงความคุ้มค่าและบริการที่ดีจากผู้ผลิตและจำหน่าย ล้วนเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการตัดสินใจซื้อของคุณ

หากคุณกำลังมองหาน้ำกลั่น (Deionized Water) หรือสารเคมีคุณภาพเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมของคุณ RHK Group เราเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสารเคมีที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานจากแหล่งผลิตทั้งในและต่างประเทศให้คุณได้เลือกใช้กับอุตสาหกรรมของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยแน่นอน


ติดต่อสอบถามข้อมูล น้ำกลั่น หรือสั่งซื้อสินค้า

https://www.rhkchemical.com/
โทร : 02-394-0222
Line id : @rhkgroup
อีเมล: rhkgroup@hotmail.com, mktg@rhkchemical.com